หลงเสน่ห์บาหลี

หลงเสน่ห์ บ า ห ลี

ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา แอบหนีไปเที่ยวเกาะสวย ที่ร่ำรวยด้วยศิลปะและวัฒนธรรมอย่าง บ า ห ลี มาค่ะ

การเดินทางครั้งนี้เราใช้บริการของ Airasia เช่นเคย โดยออกเดินทางจากดอนเมืองตั้งแต่หกโมงเช้า ใช้เวลาเดินทางราวๆ 4 ชั่วโมง ถึงสนามบินงูระห์ไร บาหลี ราวๆ สิบเอ็ดโมงครึ่ง เวลาที่บาหลีจะเร็วกว่าเมืองไทยประมาณ 1 ชั่วโมง

การเดินทางท่องเที่ยวในบาหลีมี 2 แบบ คือ เช่ารถขับเองหรือเช่ารถพร้อมคนขับ เราเลือกเช่ารถพร้อมคนขับ เพื่อจะได้ดูวิว ชมความงามของเกาะบาหลีแบบสบายๆ

มาเที่ยวบาหลีต้องไม่พลาดชมความงามของวัด ซึ่งล้วนเป็นวัดโบราณเก่าแก่ ที่มีอยู่ทั่วทุกมุมเกาะ

วัดอูลูวาตู ( Pura Uluwatu ) เป็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นริมหน้าผาสูง มีฉากหลังเป็นมหาสมุทรอินเดีย ที่กว้างใหญ่สุดสายตา

วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ (Pura Tirta Empul) ศาสนสถานที่เก่าแก่ มีอายุมากกว่าพันปี เป็นวัดในศาสนาฮินดู ภายในวัดมีบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมมาอาบน้ำที่วัดแห่งนี้ ด้วยมีความเชื่อว่าน้ำจากบ่อน้ำนี้สามารถรักษาโรคและขจัดภัยต่างๆ ได้

วัดเบซากิห์ ( Pura Besakih ) เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดของเกาะบาหลี นับเป็นวัดหลวงคู่บ้าน คู่เมือง มีบริเวณกว้างใหญ่ ภายในประกอบไปด้วยวัดน้อยใหญ่ถึง 22 วัด วัดนี้จะมีงานเทศกาลเฉลิมฉลองอยู่บ่อยครั้ง นับเป็นจังหวะดี ในครั้งนี้ก็มีงานเทศกาลเช่นกัน จึงได้เห็นชาวบาหลีใส่ชุดพื้นเมือง มากราบไหว้ขอพรที่วัดกันอย่างคับคั่ง

มาถึงบาหลีแล้วต้องไม่พลาดวิวนาขั้นบันได ( Terrace Rice Fields ) ซึ่งเป็นวิถีการปลูกข้าวของคนพื้นถิ่น ความเขียวขจี ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ชวนให้นักท่องเที่ยวหยุดพัก ถ่ายรูปกันแบบลืมความร้อนเลยทีเดียว

คอกาแฟต้องลิ้มลอง ของขึ้นชื่อของที่นี่ กาแฟขี้ชะมด ( Luwak Coffee ) ที่มีป้ายเชิญชวนให้ชิมกันตามรายทาง กาแฟขี้ชะมดที่นี่มีให้ชิมในราคา 5 ดอลลาร์ ชิมแล้วชอบก็มีให้ซื้อกลับบ้าน

บ า ห ลี เกาะเล็กๆ ของอินโดนีเซีย มีทั้งความงามของธรรมชาติ ผสานศิลปวัฒนธรรมให้ชวนหลงใหล แม้อากาศจะร้อนแรง แต่แพ้มนต์เสน่ห์ที่เรียกร้องให้ต้องกลับไปเยือน…อีกครั้งและ อี ก ค รั้ ง